วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

การศึกษาต่อ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน



“ ศาสตร์แห่งแผ่นดิน
(ทางการ)
ประชาชน คือ เจ้าของประเทศ
เกษตรศาสตร์ คือ ภาษีของประชาชน
(ไม่เป็นทางการ) ”



มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนทางด้านการเกษตร อันเป็นฐานรากของการดำรงชีวิตแบบไทยตั้งแต่อดีตกาล[1] ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นเป็นอันดับ ที่สามของไทย โดยมีปณิธาณในการก่อตั้งเพื่อเป็นคุณประโยชน์แก่การกสิกรรมและการเศรษฐกิจ ของประเทศโดยตรง [2][3]

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เริ่มต้นจากการเป็นโรงเรียนช่างไหมในปี พ.ศ. 2447 [4][5] และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนการเพาะปลูก หลังจากนั้นรวมเข้ากับโรงเรียนแผนที่เป็นโรงเรียนกระทรวงเกษตราธิการ มีผลให้วิทยาการทางการเกษตรพัฒนาและก้าวหน้า มีกิจกรรมและวิชาการต่างๆ ที่ดำเนินการเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่ประชาชนเสมอมา

ใน พ.ศ. 2486 รัฐบาลในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการปรับปรุงและรวมกิจการของวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนกับโรงเรียน วนศาสตร์ (โรงเรียนการป่าไม้เดิม จังหวัดแพร่) มาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. 2486 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 โดยแรกเริ่ม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการเปิดสอนเฉพาะด้านเกษตรศาสตร์ ต่อมา ได้มีการขยายสาขาวิชาครอบคลุมทั้งด้าน สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ บริหารธุรกิจ และ ศิลปศาสตร์ ตามมาตรฐานของมหาวิทยาลัยสากลอย่างสมบูรณ์

พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคม ในอดีตนิสิตที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญา บัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จากทุกวิทยาเขต


คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์




คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นคณะแรกตั้งของมหาวิทยาลัย เปิดสอนทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก

คณะ เศรษฐศาสตร์เป็น 1 ใน 4 คณะแรกตั้งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 โดยใช้ชื่อว่า "คณะสหกรณ์" ต่อมา ในปี พ.ศ. 2509 ได้ขยายแผนการศึกษาครอบคลุมการศึกษาทั้งทางด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ ดังนั้น จึงได้เปลี่ยนชื่อคณะใหม่ว่า "คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ" เนื่องจาก คณะ ฯ มีจำนวนนิสิตและคณาจารย์เป็นจำนวนมาก โดยมีขนาดใหญ่เป็นที่ 2 รองจากคณะเกษตร พร้อม ๆ กับที่ความต้องการบุคลากรในสาขาวิชาเหล่านี้ทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2535 จึงมีการแบ่งส่วนราชการออกเป็นสองคณะ คือ "คณะเศรษฐศาสตร์" และ "คณะบริหารธุรกิจ " ดังเช่นปัจจุบัน

สิ่งที่ชอบมากที่สุด





การวาดลายเส้น: คือ ภาพวาดที่เป็นเส้นอาจมีความสมบูรณ์ในตนเองหรือแต่งเติมด้วยการลงแสงเงาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ใน การวาดลายเส้นเราควรจะมารู้จักกับอุปกรณ์ในการวาดลายเส้นอุปกรณ์ที่ใช้ในการ เขียนลายเส้นที่เป็นพื้นฐานของการสร้างงานศิลปะที่เรียกว่า ทัศนศิลป์ หลายๆคนที่เคยสอบเอ็นทรานซ์คงรู้ดีว่าเป็นการวาดอย่างไร เราลองมารู้จักกับอุปกรณ์กันก่อนที่จะรู้จักหลักเทคนิคในการวาดต่อไป

อุปกรณ์ (Materials) เป็นอุปกรณ์ในการวาดทั่วไปที่ใช้ในทัศนศิลป์
1. ดินสอดำ ในการวาดควรใช้เฉพาะขนาดตั้งแต่ 5B จนถึง EE เพราะมีความเข้มมาก ขนาดที่ต่ำกว่านี้ถ้าหากแรเงาจะเกิดความมันเลื่อม สะท้อนทำให้ภาพดูไม่ชัดเจน
2. ปากกาหมึกซึม เป็นปากกาใช้จุ่มหรือมีหมึกในตัวก็ได้ จุดเด่นของการใช้ปากกาคือ จะทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวา
3. ปากกาหมึกแห้ง สะดวกในการใช้จะให้เส้นออกมามีความสนุกสนานอิสระ
4.แท่งถ่าน เป็นแท่งถ่านที่ขายตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป

อุปกรณ์ทั่วไป (Natural Meterials)
1. กระดานรองเขียน
2. ตัวหนีบ
3. ยางลบ
4. มีดเหลาดินสอ
5. กระดาษทราย ถ้าจะให้สะดวกในการใช้ควรหาไม้สี่เหลี่ยมเล็กมารองแผ่นกระดาษทราย
6. กระดาษปรู๊ฟ คือ กระดาษเนื้อบางลักษณะเหมือนกับกระดาษที่ใช้ม้วนยาสูบ
7. กระดาษ 100 ปอนด์

เทคนิคการฝึกความแม้นยำในการวาดมีดังต่อไปนี้

1. การขีดเส้นตรงในแนวนอนและแนวตั้งให้เส้นมีชองไฟเท่าๆกัน
2. การขีดเส้นตรงให้ลงน้ำหนักมือและผ่อนลงไปจะได้เส้นที่มีลักษณะคล้ายดาวตก
3.การขีดเส้นตาข่ายให้ช่องไฟเท่ากันในทุกทิศทาง
4. การไล่น้ำหนักเงาจากอ่อนไปหาแก่และจากแก่ไปหาอ่อน
5. การลากเส้นเป็นเลขแปดอย่างต่อเนื่อง

ประวัติส่วนตัว








สวัสดีคร้าบเพื่อนที่แวะมาดูบล๊อก ผมชื่อ:นายชนาธิป อินทร์พุก
เรียกเล่นๆว่า พฤกษ์
ผมเป็นคนที่มีอารมณ์:สนุกสนานชอบเสียงหัวเราะมากๆเพราะเสียงหัวเราะนั้นทำให้ผู้คนรอบข้างของเรานั้นอารมณ์ดีไปด้วยแต่ถ้าคนเราหัวเราะมากๆเข้ามันจะไม่ดีเพราะคนอื่นๆนั้นจะมองเราว่าบ้าแต่การหัวเราะของคนเรานั้นมีประโยชน์ต้างๆมากมายรู้กันรึป่าวคร้าบ..
1.ทำให้ความดันโลหิตของคนเราลดลง
2.ทำให้ฮอร์โมนเกี่ยวกับความเครียดลดลงแล้วยังทำให้การทำงานของฮอร์โมนต่างๆกับเป็นปรกติ
3.ช่วยกระตุ้น T-CELL ให้กำจัดเชื้อโรคเพิ่มขึ้น ร่วมถึงแอนติบอดีอื่นๆในร่างกายด้วย
4.ช่วยทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย หายใจได้ดีขึ้นทำให้ปอดโล่งสบาย




สีที่ชอบ แดง ดำ ฟ้า เขียว




อาหารที่ชอบ ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำ




สัตว์ที่ชอบ หมา ปลา




กรุ๊ปเลือด o




กีฬาที่ชอบ ฟุตบอล




วงดนตรีที่ชอบ Ritalinn




เพลงที่ชอบ สูงสุดสู่สามัญ เกิดมาเพื่อสิ่งนี้




สถานที่ท่องเที่ยวที่ชอบ ทะเล น้ำตก ภูเขา




ผลไม้ที่ชอบ ส้ม มังคุด มะม่วง แอปเปิ้ล




คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด




เพื่อนสนิท สุธิดล ชื่อเล่น ดล




จตุรภัทร ชื่อเล่นโด้




ธนภัทร ชื่อเล่น โอ๊ด




จามร ชื่อเล่น น๊อต




ธนัฐ ชื่อเล่น เจ




ธีรภัทร ชื่อเล่น บุ๊ค




บวรพงศ์ ชื่อเล่น เอ็ม




ทัศภูมิ ชื่อเล่น เพน




ต้นตระการ ชื่อเล่น ต้น




ธรรมพร ชื่อเล่น แอ๊ก




ชาคริส ชื่อเล่น หนึ่ง